การเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด และราคาในฟาร์มเลี้ยง

เตรียมบ่อให้สะอาดจะเป็นบ่อซิเมนต์ หรือ กล่องไม้อัดก็ได้

จะขอบอกวิธีการวางไข่จิ้งหรีดครับ ซึ่งหลายๆ ฟาร์มที่เพาะเลี้ยงจิ้งหรีดอยู่แล้ว คงจะมี
เทคนิคการวางไข่ไม่เหมือนกันนะครับ โดยส่วนของผมเองก็จะมีเคล็ดลับในการวางไข่ ซึ่งจะทำให้ได้ไข่จิ้งหรีดที่มากและเมื่อเวลาฟักตัวออกมานั้น ตัวจะแข็งแรงสามารถมีชีวิตรอด ได้เกือบ ร้อยเปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียวนะครับ จริงๆ เคล็ดลับการวางไข่จิ้งหรีด ผมจะบอกกับลูกค้าที่สั่งซื้อไข่จากฟาร์มของผมเท่านั้น แต่ถ้าใครได้เข้ามาอ่าน ที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นี่ ก็สามารถนำ
เอาวิธีการวางไข่จิ้งหรีด ไปใช้ได้เหมือนกันครับ เอาล่ะครับ บ่นกันมาเยอะ ที่นี้ลองมาดูวิธีการของผมกันดูบ้างครับ ว่าจะเหมือนกับหลายๆ ฟาร์มหรือเปล่า ขั้นตอนแรกต้องหาอุปกรณ์ที่ผมบอกเหล่านี้ให้ครบก่อนนะครับ ประกอบไปด้วย ถาดขนาด 35 ซม.,แกลบเผาสีดำแบบละเอียด,กาบมะพร้าว,น้ำสะอาดขั้นตอนต่อไปก่อนจะวางไข่ ควรจะดูว่าจิ้งหรีดพร้อมวางไข่หรือไม่ ดูจากที่จิ้งหรีดเริ่มร้อง ผมจะนับไปอีกสัก 5-7 วันค่อยวางไข่ เพื่อให้จิ้งหรีดได้ผสมพันธุ์กันก่อนนะครับ ซึ่งจิ้งหรีดตัวเมียนั้น มีไข่ที่ท้องก็จริงแต่ยังไม่สามารถวางไข่ได้ เพราะ ยังไม่มีการผสมน้ำเชื้อจากตัวผู้นะครับ ถึงวางไข่ไปก็ไม่สามารถที่จะฟักเป็นตัวได้ ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ตัวเมียมันจะวางไข่หรือเปล่าถ้าไม่ได้รับการผสมพันธุ์  คงไม่ต้องสังเกตุขนาดนั้นก็แล้วกัน อะ ขั้นตอนต่อไปหลังจากจครบเวลาจิ้งหรีดร้องมาแล้วประมาณ 5 วัน ก็หลังเตรียมอุปกรณ์ที่ผมได้บอกไปข้างต้นมาเตรียมไว้เรียบร้อยก็เริ่มกันได้เลยครับนำแกลบเผาสีดำผสมน้ำพอประมาณอย่าให้จับเป็นก้อนพอจับแล้วรู้สึกว่าชื้นๆ มือก็พอ จากนั้นนำใส่ถาดพอประมาณ อย่าให้ล้นถาดมาก เดี๋ยวจิ้งหรีดจะเขี่ยแกลบลงบ่อหมด จากนั้นนำไปวางในบ่อ ช่วงแดดเย็นเริ่มหมด จากนั้นฉีดน้ำไปหน้าแกลบให้ชุ่มเลยครับ เพราะจิ้งหรีดเวลาวางไข่มันจะจับจากความชื้นของวัสดุสังเกตุว่าขนาดถาดน้ำหรืออะไรที่เปียกน้ำมันจะทำท่าทางแทงตูด ลงไปทันที เหอะๆ เลี้ยงแล้วสังเกตุดู
นานเข้าก็จะทราบกันเองครับ เสร็จจากขั้นตอนฉีดน้ำเสร็จแล้วจากนั้นนำ กาบมะพร้าววางให้มันปีนไต่ขึ้นไปวางไข่ง่ายๆ หน่อยครับ หรือถ้าจะอำนวยความสะดวกเข้าไปอีกก็ นำถาดอาหารพาดให้มันปีนลงไปเลยก็ได้นะครับ อันนี้ก็จะทำให้มันลงไปง่ายเหมือนกัน บางทีผมขี้เกียจหากาบมะพร้าว ก็เอาวิธีนี้ล่ะครับ อ่ะทีนี้ถามว่าจะเอาเมื่อไหร่ จริงๆ ของผมนั้นวางแค่เพียงไม่เกินเที่ยงวันก็พอครับ หรือไม่เกินแดดแรงๆ เพราะแดดแรงหรืออากาศร้อนยิ่งจะทำให้ ไข่จิ้งหรีดนั้นฟ่อได้ครับ เพราะบางทีเห็นไข่จิ้งหรีดบริเวณหน้าถาดแล้วมันเหลืองๆ เพราะโดนอากาศที่ร้อน ก็เสียดายเหมือนกัน ดังนั้นไม่ควรให้เกินเวลาดังที่บอกนะครับ เคล็ดลับอีกอย่างถ้าอยากได้ไข่เยอะๆ และอยากวางหลายวันก็สามารถทำได้ครับ คือเราต้องคอยดูความชื้นของแกลบว่ามันยังมีอยู่ไหม สังเกตุง่ายๆ คือสีของแกลบจะเริ่มเป็นสีขาว ก็แสดงว่า เริ่มที่จะแห้งแล้ว เราก็ทำการฉีดน้ำลงไปช่วยครับ พอประมาณ หรือจัดให้ชุ่มเลยก็ไม่เป็นไรครับ ก็ได้ทราบถึงเทคนิคการวางไข่จิ้งหรีดของ ฟาร์มจิ้งหรีด กันไปแล้วนะครับ ถ้าใครสนใจซื้อพันธุ์ไข่จิ้งหรีดก็สามารถสั่งซื้อและสอบถามเทคนิคการเลี้ยงต่างๆ ซึ่งเป็นสูตรที่ผมสังเกตุพฤติกรรมของจิ้งหรีดมาหลายปีซึ่งคิดว่าเลี้ยงเป็นแล้ว แต่ก็ต้องหาความรู้เทคนิคแบบอื่นๆ มาประกอบเพื่อให้การเลี้ยงดีขึ้นและได้จิ้งหรีดที่น้ำหนักดีและลดต้นทุนอาหาร เพื่อให้เราได้กำไรมากขึ้นกว่าเดิมครับ ก็หวังว่าคงจะช่วยได้บ้างสำหรับคนเพิ่งเริ่มเลี้ยงนะครับ 

สอบถามได้ตลอดเวลาครับที่ เบอร์ 095-5296536,080-7925752

 การเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด

เตรียมไข่จิ้งหรีด 

ไข่จิ้งหรีด ราคาขันละ 60 บาท   ซื้อ 10 ขัน แถมฟรี 2 ขันครับ

สั่งจิ้งหรีด จำนวน 1-5 กิโลกรัม  ราคาโลละ  200  บาท

                จำนวน 6-10 กิโลกรัม  ราคาโลละ 1ุ50  บาท

                จำนวน l0-100 กิโลกรัม  ราคาโลละ 120 บาท

                จำนวน 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาโลละ 100  บาท ครับ ส่งฟรีถึงที่ครับ

ค่าจัดส่ง ตามน้ำหนักและระยะทางไกล้ไกลครับ
    


             

จิ้งหรีด คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

จิ้งหรีด ถือเป็นแมลงที่มีขนาดลำตัวปานกลางเมื่อเทียบกับแมลงโดยทั่วไป มีปีก 2 คู่ คู่หน้าเนื้อปีกหนากว่าคู่หลัง ปีกเมื่อพับจะหักเป็นมุมที่ด้านข้างของลำตัว ปีกคู่หลังบางพับได้แบบพัดสอดเข้าไปอยู่ใต้ปีกคู่หน้า ปากเป็นชนิดกัดกิน หัวกับอกมีขนาดกว้างไล่เลี่ยกัน ขาคู่หลังใหญ่และแข็งแรงใช้สำหรับกระโดดตัวผู้มีอวัยวะพิเศษสำหรับทำเสียงเป็นฟันเล็ก ๆ อยู่ตามเส้นปีกบริเวณกลางปีก ใช้กรีดกับแผ่นทำเสียงที่อยู่บริเวณท้องปีกของปีกอีกข้างหนึ่ง อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่เป็นที่รู้จักกันดีของจิ้งหรีด ขณะที่ตัวเมียจะไม่สามารถทำเสียงดังนั้นได้ และจะมีอวัยวะสำหรับใช้วางไข่เป็นท่อยาว ๆ บริเวณก้นคล้ายเข็ม เห็นได้ชัดเจน

จิ้งหรีดสามารถพบได้ในทั่วโลก โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้น พบแล้วประมาณ 900 ชนิด ในประเทศไทยก็พบได้หลายชนิด จิ้งหรีดเป็นแมลงที่กัดกินพืชชนิดต่าง ๆ เป็นอาหาร สามารถกินได้หลายชนิด มักออกหากินในเวลากลางคืน มักจะอาศัยโดยการขุดรูอยู่ในดินหรือทราย ในที่ ๆ เป็นพุ่มหญ้า แต่ก็มีจิ้งหรีดบางจำพวกเหมือนกันที่อาศัยบนต้นไม้เป็นหลัก

สำหรับในประเทศไทย พบจิ้งหรีดได้ทั่วทุกภูมิภาค ชนิดของจิ้งหรีดที่พบ ได้แก่ จิ้งหรีดทองดำ (Gryllus bimaculatus), จิ้งหรีดทองแดง (G. testaceus), จิ้งโกร่ง หรือ จิ้งกุ่ง (Brachytrupes portentosus) เป็นต้น

จิ้งหรีดเป็นแมลงที่มีวงจรชีวิตแบบไม่ต้องผ่านการเป็นหนอนหรือดักแด้ ตัวอ่อนที่เกิดมาจะเหมือนตัวเต็มวัย เพียงแต่ยังไม่มีปีก และมีสีที่อ่อนกว่า ต้องผ่านการลอกคราบเสียก่อน จึงจะมีปีกและทำเสียงได้ จิ้งหรีดจะผสมพันธุ์เมื่อเป็นตัวเต็มวัย การผสมพันธุ์และวางไข่แต่ละรุ่นจะใช้เวลาประมาณ 15 วันต่อครั้ง ในแต่ละรุ่น เมื่อหมดการวางไข่รุ่นสุดท้ายแล้วตัวเมียก็จะตาย โดยตัวผู้จะทำเสียงโดยยกปีกคู่หน้าถูกันให้เกิดเสียง เพื่อเรียกตัวเมีย จังหวะเสียงจะดังเมื่อตัวเมียเข้ามาหา บริเวณที่ตัวผู้อยู่ ตัวผู้จะเดินไปรอบ ๆ ตัวเมียประมาณ 2-3 รอบ ช่วงนี้จังหวะเสียงจะเบาลง แล้วตัวเมียจะขึ้นคร่อมตัวผู้ จากนั้นตัวผู้จะยื่นอวัยวะเพศแทงไปที่อวัยวะเพศตัวเมีย หลังจากนั้นประมาณ 14 นาที ถุงน้ำเชื้อก็จะฝ่อลง แล้วตัวเมียจะใช้ ขาเขี่ยถุงน้ำเชื้อทิ้งไป เมื่อไข่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว ตัวเมียใช้อวัยวะวางไข่ที่แทงลงในดินที่มีลักษณะเรียวยาวคล้ายเมล็ดข้าวสาร ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ก็จะฟักออกเป็นตัวอ่อน ตลอดอายุไข่จิ้งหรีดตัวเมียสามารถวางไข่ได้ตั้งแต่ 600-1,000 ฟอง ซึ่งจะวางไข่เป็นรุ่น ๆ ได้ประมาณ 4 รุ่น^[3]

จิ้งหรีดถือเป็นแมลงที่เป็นศัตรูพืชอย่างหนึ่ง แต่ก็มีความเกี่ยวพันธ์กับมนุษย์ในแง่ของเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงมาอย่างยาวนาน ในหลายวัฒนธรรม ในหลายประเทศ มีการเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อฟังเสียงร้อง และเลี้ยงไว้สำหรับการกัดกัน โดยถือว่าเป็นแมลงจำพวกหนึ่งที่สามารถนำมาต่อสู้กันได้อย่างด้วงกว่าง อีกทั้งยังปรากฏในนิทานอีสปในเรื่อง มดกับจิ้งหรีด เป็นต้น^[4][5][6]

นอกจากนี้แล้ว ในปัจจุบัน ยังนิยมใช้เพื่อการบริโภคเป็นอาหาร และใช้เป็นอาหารสัตว์ จึงมีการส่งเสริมให้เลี้ยงจิ้งหรีดในฐานะเป็นสัตว์เศรษฐกิจ

จิ้งหรีดทองแดงลายตัวผู้

จิ้งหรีดทองแดงลายตัวเมีย